Thamlhor Koh samui Arrive at you a celebrities เรียนท่านผู้มีเกียรติ


ยินดีต้อนรับสู่เว็บไซ้ picwhere samui แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว อาหาร การถ่ายภาพและอุปกรณ์ และอื่นๆอีกมามาย
ขอบคุณอย่างยิ่ง wasan samui

เว็บ picwheresamui ภาพถ่ายที่ใหน
http://picwheresamui.blogspot.com

หรือร้านทำหล่อ
Call +66888264410

Search ค้นหา เว็บ บล๊อกนี้ ไส่ลิ้งจากที่นี่

สภาพอากาศ จ.สุราษฎร์ธานี

สมัครสมาชิกบัญชีธนาคารออนไลด์ PayPal คลิกด้านล่าง

น้ำประปาดื่มได้

น้ำประปาดื่มได้..Koh Samui
       เย็นวันที่ 29 มิถุนายน 2552 เวลา 17.20 น. ณ ต.หน้าเมือง อ.เมืองเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ข้าพเจ้าทำงานเสร็จว่างไม่มีลูกค้าและตั้งแต่ตอนเที่ยงมายังไม่ได้กินข้าวเลยหิวมาก พอดีว่างก็เลยเข้าไปกินข้าว ถ้วยจานกองไว้ตั้งแต่เมื่อคืนยังไม่ได้ล้างเลยก็เอาจานมาล้าง
แทบช็อคเป็นไปได้ยังไงน้ำดำยังกะอะไรก็มิได้แอะใจอะไรมาคงเป็นท่อประปาในบ้านมั้งเดี๋ยวมันคงหาย ไม่เป็นเช่นนั้นเปิดไว้เกือบครึ่งชั่วโมงยังดำอยู่เลย อันที่จริงมันก็เป็นบ่อยเจอมานานแล้วแต่นิดๆหน่อยๆ บางครั้งก็เป็นฟองขาว บางครั้งก็ขุ่นเหลือง แต่ครั้งนี้รับไม่ได้ แล้วจะทำอย่างไรละ อยู่มากี่ที่กี่ปีก็เดือนละ 139.10 บาท ใช้มากใช้น้อยไม่ใช้ก็เสียเท่านี้ (สงสัยโปรฯเดือน 139.10 บ.) ปัญหาเดิมๆ ที่ไม่ยอมแก้ไข นี่ถ้าซักผ้าที่ขาวๆอยู่ หรือล้างหมู เป็ด ไก่ ผัก ปลา ไม่ต้องเททิ้งหรือ จะฟ้องหรือไม่กล้าเดี๋ยวคนใหญ่คนโตไล่ออกจากเกาะ แล้วจะทำอย่างดีละ ก็เอารูปมาเก็บไว้ในบล๊อกนี้แหละและก็เขียนระบายออกไป
 อันนี้ไม่ได้ว่าไครน๊ะภาพมันฟ้องเอง หรือจะให้ซื้อน้ำถังมาใช้ตายแน่ ไม่รู้คนอื่นเขาเจอแล้วเขาจะว่าอย่างไรบ้างก็ไม่รู้น๊ะ อันที่จริงก็เป็นเมืองท่องเที่ยวถ้าแขกเขาเปิดใช้ในที่พักโรงแรมระดับห้าดาวเจอแบบนี้ละจะทำอย่างไรน๊า แล้วที่ว่าน้ำประปาดื่มได้ละ ที่นี้ใช้น้ำที่สงสัยหวาดผวาแล้วละไม่รู้เมื่อไหรมันจะไหลออกมาแบบนี้อีก ไครคิดอย่างไรช่วยบอกทีน๊ะ พอแค่นี้แหละขอบคุณที่อ่าน หรือเมล์มาที่ wsthamlhor@yahoo.co.th ก็ได้นะครับ

the food is local แกงส้มปลานิลกับผักหนาม

the food is local แกงส้มปลานิลกับผักหนาม (ปลานิลอีกแล้ว)
สิ่งที่ต้องเกรียม
ปลานิล 2 ตัว ครึ่ง กก
ผักหนามสด 1 กัม
เครื่องแกงส้ม 2 ช้อนโต๊ะ
กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะขามเปียก 1 ถ้วยตวง
เกลือแกง 1/2ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีการทำ
ปลานิลขอดเกล็ดล้างน้ำให้สะอาดบัง 3 ท่อน
ผักหนามสดล้างให้สะอาดหั่นเป็นท่อนยาวประมาณ 1นิ้วครึ่ง
นำน้ำเปล่า 5ถ้วยตวง ประมาณ 2 ถ้วยแกงครึ่ง
         นำเครื่องแกง กะปิ น้ำมะขามเปียก มาละลายคนให้เข้าแล้วไส่ลงในหม้อที่ไส่น้ำชิมให้ได้รสชาติ เผ็ด เปรี้ยว เค็ม ถ้าชอบหวานไส่น้ำตาลเล็กน้อย (คำเตือนถ้าไส่น้ำตาลถ้าทำไม่ดีอาจจะทำให้ปลามีกลิ่นคาวได้)
         เมื่อไส่ส่วนผสมและชิมรสได้ที่แล้วนำหม้อขึ้นตั้งไฟให้เดือดและมีกล่นหอมเครื่องแกง
เมื่อน้ำแกงเดือดดีแล้วนำปลาที่เตรียมไว้ไส่ลงไป ห้ามคน
รอจนเดือดไส่ผักหนามรอเดือดอีกครั้งชิมรสดูไส่น้ำปลาที่เตรียมไว้ถ้าหากชอบเปรี้ยวให้บีบมะนาวครึ่งลูกไส่ด้วยก็ได้  ยกลงพร้อมเสริฟกับข้าวสวยร้อนๆ
สูตรนี้สำหรับ 3 คนทาน
ผักแกล้ม(ผักเหนาะ)
เนื่องจากเป็นแกงพื้นบ้าน(ปักใต้)มี สะตอ ลูกเนียง

Food for Green World อาหารมื้อนี้เชิงอนุรักษ์ แกงส้มปลานิล

Food for Green World แกงส้มปลานิลกับผักหนาม อาหารมิ้อนี้มีคุณค่าทางจิตใจและเชิงอนุรักษ์สิ่งแว้ดล้อมและพืชพันธุ์พื้นบ้าน วันนี้นั่งกินแกงส้มปลานิลกับผักหนาม กินไปเลยได้ความคิดแปลกๆ ขึ้นมา อันที่จริงไม่เกี่ยวกับ blogทำหล่อเกาะสมุย มันเป็นผลพวงมาจาก blog ทำหล่อทำหรอย


เข้าเรื่องกันดีกว่า ปลานิลปลาพื้นบ้านมีอยู่ทั่วไปตามห้วย หนอง บึง ส่วนผักหนามมักขึ้นตามริมห้วยในป่าเขา ที่มีความชื้นและความอุดมสมบุรณ์สูง เมื่อนำมาแกงส้มกับปลานิลอร่อยมาก ยิ่งแกล้มกับ สะตอ ลูกเนียง ไม่ต้องบอกเลยว่าจะเป็นยังไง โดยปกตินิสัยของชาวปักใต้เวลาทานเข้ามักต้องมีผักแกล้มอยู่คู่กันเสมอ ถ้ากินแต่แกงอย่างเดียวมันไม่ค่อยอร่อย ดังคำที่ว่า ม้ายค่อยถูกปาก ม้ายค่อยหรอย
ปัจจุบันนี้ผักบ้านๆ จำพวกนี้นับวันจะเหลือน้อยแล้วเพราะมันอยู่ในป่า ผักหนาม ผักกูด ลูกเนียง สะตอป่า เป็นเพราะอะไรหรือ ก้อเพราะชาวบ้านและนายทุนเข้าไปแผ้วถางโคนไม้ทำลายป่ากันมากนะซิ ภูเขานี้จะกลายเป็นภูเขาหัวโลนซะแล้ว ต้นไม้ใหญ่ๆ ก็ถูกตัดทำลาย พื้นที่ถูกแปรสภาพเป็นการเพาะปลูกอย่างอื่นเสีย ส่วนห้วย หนอง คลอง บึง ก็ยังมีการใช้รถไถ ปรับถม ส่วนภูเขาก็ขุดเจาะเสียราบเรียบ บางพื้นที่หายไปจากแผนที่โลกก็ยังมีเลย ในเมื่อทุกออย่างที่เคยมีอยู่มันถูกเปลี่ยนสภาพไปเช่นนี้ มันจึงส่งผลให้สภาพสภาวะอากาศในพื้นที่นั้นๆ และในโลกของเราเปลี่ยนแปลงไป โดยส่วนมากเท่าที่ได้ฟังบางคนเข้าพูดกันมักจะโทษโลกเราที่ทำให้เปลี่ยน แต่หารู้ไม่ว่าตัวเราทุกคนนั้นแหละคือตัวต้นเหตุในการที่ทำให้โลกของเรามันเปลี่ยน ธรรมชาติมันเป็นทั้งผู้สร้างและผู้ทำลายในเวลาเดียวกัน มันจะจัดความสมดุลด้วยตัวของมันเอง อะไรที่เกินก็กำจัด อะไรที่ขาดก็เติม เช่นป่าไม้สร้างความชุ่มชื้นมีละอองน้ำลอยขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศแล้วละอองน้ำเหล่านั้นรวมตัวกันเป็นเมฆเปลี่ยนสภาพเป็นเม็ดฝนตกลงมาสู่พื้นผิวโลกลงสู่ ลำธาร ห้วย หนอง คลอง บึง และห้วย หนอง คลอง บึง นี้แหละที่เป็นตัวกักเก็บน้ำ เผื่อเมื่อว่ายามใดที่ฝนไม่ตก น้ำในที่เก็บเหล่านี้ก็ยังคงสร้างความชุ้มชื้นให้กับพื้นผิวของโลกและป่าไม้ มันก็สอดคล้องกันอยู่แล้วนะ ดิน น้ำ ลม ไฟ และสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย พืชพันธุ์ มนุษย์ นี่คือองค์ประกอบ และความสมดุลของธรรมชาติ การโค่นไม้ทำลายป่า ขุดเจาะ ไถ ถมปรับสภาพพื้นที่ใหม่สร้างใหม่ทำใหม่จึงเลยทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนไป พูดง่ายๆ ยามเมื่อฝนตกลงมาเรามีตุ่มมีไห กะละมัง รองรับน้ำเอาไว้ใช้ ถ้าเราเอามันออกก็ไม่มีน้ำเอาไว้ใช้ ที่นี้โลกของเราก็เหมือนกัน ยามที่ฝนตกลงมาจะมากหรือน้อยก็ได้ ป่าไม้ ห้วย หนอง บึง นี้เหละเป็นตัวซับ ดัก กักเก็บไว้ เมื่อมนุษย์เราไปปรับเปลี่ยนมันเสียใหม่ ตัดไม้ออก ขุดเจาะภูเขาเสียราบเรียบ ถมห้วยหนองบึงเสียหมด ดังตัวอย่างที่มีให้เห็นก็เยอะ ฝนตกหนักน้ำป่าทะลักท่วมหมู่บ้านราบเสียหายเป็นหน้ากลอง ข่าวออกมาบ่อยและก็เยอะ แต่ไม่เห็นรู้จักเจ็บรู้จักจำกัน พอลมพัดหอบแบ้งค์ร้อยแบ้งค์พันมาแปะตรงหน้านั่งยิ้มระรื่น ความสูขชั่วคราวไม่นึกถึงอนาคตและสิ่งที่จะเกิดขึ้นในวันข้างหน้า นับวันนี้พื้นที่สีเขียวของความชุ่มชื้นเหลือน้อยเต็มทีแล้ว มันแทนที่ด้วยพื้นที่มีสีสรรและอุดมไปด้วยความแห้งแล้ง นับวันถ้าป่าไม้ ห้วย หนอง คลอง บึง พวกนี้ลดน้อยหรือหายหมดไปแล้วพวกเราๆ ยังจะได้ไปหา ปลา ปู ผักพื้นบ้านแปลกมารับประทานกันอีกหรือ ผักหนาม ผักกุด ผักฯลฯในเทือกเขาลำเนาไพร ลูกเนียง ยอดหวาย ยังงี้ ยังพอจะมีหาได้อยู่หรือเปล่า จะไปหาปลาตามธรรมชาติ ปลาหมอ ปลาช่อน ปลากระดี่ ปลานิล ปลาดุก ตามห้วย หนอง บึง ของสดๆตามธรรมชาติอย่างนี้สารพิษก็ไม่มีเอามาปิ้ง ย่าง ต้ม แกง รสชาติมันช่างกรุบกรอบหวานหอมซะเหลือเกินของอย่างนี้ยังจะมีให้พวกเราๆ มีกินกันอีกหรือ ถ้าพวกเราไม่ช่วยกันอนุรักษ์พวกมันเอาไว้ ปัจจุบันนี้ผักปลาเอามาเพาะเลี้ยงด้วยสารเตมี เร่งให้ใหญ่ รีบให้โต กินเข้าไปสารต่างๆสะสมในร่างกาย ยามโรคภัยมาเบียดเบียนก็รักษายากดื้อยาอีกต่างหาก ธรรมชาติเปลี่ยนไปโรคภัยและเชื้อสายพันธุ์ใหม่ก็มากรักษาก็ยากขึ้น เราลองนึกย้อนกลับไปในสมัยโบราณ สมัย ปู่ ย่า ตา ยาย โน้นนะเขาอยู่กันอย่างไร โรคภัยไข้เจ็บเป็นยังไง สภาพร่างกายเป็นยังไง อาหารการกินเป็นยังไง การเป็นอยู่เป็นยังไง เขาอยู่กันสูขสบายกันดีอยู่กันแบบธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บมาคอยรบกวน พืชผักปูปลาก็หาตามธรรมชาติ ตามห้วย หนอง คลองบึง ป่าเขาลำเนาไพร สดๆ ใหม่ๆ เท่าทีหามาได้ ลองคิดดูคนสมัยก่อนตัวนี้โตๆกันทั้งนั้นร่างกายก็แข็งแรง กำยำ ส่วนพวกเราสมันนี้นับวันตัวยิ่งเล็กลงเล็กลง เพราะฉะนั้นเมื่อนึกได้พวกเราปัจจุบันก็จงช่วยกันอนุรักษ์ของเหล่านี้ไว้ อันใหนที่มีน้อยก็ช่วยกันปลูกเสริมเพิ่มเติม ที่มันไกล้จะหมดก็อย่าไปทำลายมัน เพราะไม่เช่นนั้น วันนี้กินแกงส้มปลานิลกับผักหนาม อาจจะไม่มี สะตอ ลูกเนียง มาแกล้มด้วยก้อได้ เพราะพวกเราได้โค่นและทำลายมันไปหมดแล้ว ปลานิลมันหมดไปจากห้วย หนอง บึง เพราะพวกเรา ปรับ ไถ ถม พื้นที่กันเสียหมดแล้ว และในเมื่อมันหมดไปโดยไม่มีการอนุรักษ์หรือรักษามันไว้พวกเราก็ไม่มีอะไรไว้ใช้ไว้กินกันและอย่าไปโทษโลกหรือโทษไครโทษตัวเรานั้นแหละ หว้ากินไปกินมาซดซ๊ะน้ำแกงแห้งหมดเลยอร่อยมากๆ มิน่าของสดจากธรรมชาติรสชาติมันเป็นอย่างนี้นี่เอง เห้อ..อิ่ม มากๆ ต้องไปก่อนละไปหาอะไรแปลกมาไส่บล็อกต่อแต่ตอนนี้อิ่มนึกไม่ออกขอตัวก่อน.

the food is local หมี่ผัดปากพนัง

the food is local หมี่ผัดปากพนัง
เครื่องปรุง
อันดับแรกคือเส้นหมี่ หรือเส้นป๋วยเตี๋ยวเส้นเล็ก หรือเส้นผัดไท ที่ปากพนังเรียกว่า “เส้นหมี่จันทร์”
  • เส้นหมี่จันทร์ 300 กรัม
  • มะพร้าวขูด 1 กิโลกรัม
  • พริกชี้ฟ้าแห้ง 15 เม็ด
  • หอมแดง 7 หัว
  • น้ำตาลปี๊บ 6 ช้อนโต๊ะ
  • เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ
  • กุ้งสดๆ จากทะเล ใส่ในเครื่องปรุงได้มากน้อยเท่าไรตามใจชอบ
ส่วนวิธีทำ
         ให้แช่เส้นหมี่จันทร์ลงในน้ำจนนิ่ม , ผ่าพริกแดงดอกใหญ่เอาเมล็ดออกแล้วแช่ในน้ำจนนิ่ม ก่อนจะนำมาตั้งให้สะเด็ดน้ำ จากนั้นก็ปอกหอมแดงล้างน้ำให้สะอาดแล้วโขลกพร้อมกับพริกแดง ใส่เกลือนิดหน่อยจนละเอียด แล้วน้ำมาใส่กระบะตั้งไฟเคี่ยวกับหัวกะทิจนเดือด แล้วใส่น้ำตาลปิ๊บ ใส่กุ้งสด (ถ้ากุ้งตัวเล็กไม่ต้องปอกเปลือก) หลังจากนั้นก็นำเส้นหมี่มาใส่ในกระทะ ผัดด้วยไฟอ่อนๆ จนแห้ง
         หลังจากนั้นก็จะได้ “หมี่เมืองนัง” หรือ “หมี่ผัดปากพนัง” สูตรดั้งเดิม หรือจะเรียกว่า “สูตรโบราณ” ก็ว่าได้ เพราะคนปากพนังนั้นจะมีความชำนาญในการผัดหมี่ ถือเป็นอาหารจานเด็ดของคนดั้งเดิม คนที่เดินทางไปเที่ยวเมืองปากพนัง หรือไปเยี่ยมญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง สมัยก่อนเขาจะผัดหมี่มาเลี้ยงต้อนรับ โดยรับประทานกับถั่วงอก , ผักชีล้อม , บัวบก , มะม่วงซอย ยอดกระถิน และพวกผักสด นับว่าอร่อยอย่าบอกใครเชียว

HTC Touch Viva-เอชทีซี


ข้อมูลทั่วไป HTC Touch Viva - เอชทีซี

เปิดตัวครั้งแรก 16 กันยายน 2008
ออกวางจำหน่าย ไตรมาสที่ 3 ปี 2008 ตุลาคม 2551
ราคามือถือ (เปิดตัว) 12,900 บาท ตุลาคม 2551
....................................................................................
ข้อมูลตัวเครื่อง (Spec)
ระบบ Quadband (GSM 850/900/1800/1900 MHz)
จอสัมผัส TFT-LCD 65K สี - 240 x 320 พิกเซล (2.8")- เทคโนโลยี TouchFLO™ ควบคุมหน้าจอแบบสัมผัส
ปุ่มควบคุม 5 ทิศทาง (5 ways Navi-Key)
เสียงเรียกเข้า MP3, 40 Polyphonic - รองรับไฟล์ : AAC, AAC+, eAAC+, AMR-NB, AMR-WB, QCP, MP3, WMA, WAV - ระบบสั่น (Vibration in Phone)
ระบบปฎิบัติการ Windows Mobile® 6.1 Professional- CPU : TI's OMAP™ 850, 201 MHz
หน่วยความจำ ROM 256 MB - RAM 128 MB (ตัวเครื่อง) - การ์ดหน่วยความจำ microSD
ระบบเชื่อมต่อและส่งข้อมูล (Connectivity)
ส่งผ่านข้อมูล (Data Transfer)- WiFi 802.11b/g, WLAN (Wireless LAN) - บลูทูธ Bluetooth™ v2.0, mini-USB v2.0 (ExtUSB™) - รองรับชุดหูฟังสเตอริโอ (A2DP Bluetooth™ Stereo)
ใช้งานอินเตอร์เน็ต xHTML, HTML (PocketIE), WAP 2.0 Browser
รับ-ส่งข้อความ (Messaging)- อีเมล์ Email, MMS, SMS ผ่าน EDGE, GPRS- ข้อความแชท (Instant Messaging)
รองรับ จาวาแอพลิเคชั่น - Java MIDP 2.0
จุดเด่นและคุณสมบัติพิเศษ (Feature)
กล้องดิจิตอล 2 ล้านพิกเซล (Digital Camera) - โหมดถ่ายภาพพาโนราม่า- ถ่ายภาพสำหรับใส่ในรายชื่อ - ถ่ายภาพเพื่อทำเป็นภาพพื้นหลังหรือธีม
บันทึกภาพวีดีโอ พร้อมเครื่องเล่น (Video recording & Playback)- บันทึกวีดีโอสำหรับส่ง MMS พยากรณ์อากาศล่วงหน้า (สูงสุด 5 วัน)
ค้นหาและเดินทางบนแผนที่ Goolgle Maps
การใช้งานของแบตเตอรี่
แบตเตอรี่มาตรฐาน 1,100 mAh (Standard Battery)
เปิดรอรับสาย 270 ชั่วโมง (Standby Time)
สนทนาต่อเนื่อง 480 นาที (Talk Time)
คลิกดูรายละเพิ่มเติมที่นี่ >>> รีวิว HTC..www.Simphone.com
................................................................................
ขอบคุณและขออนุญาตินำ ภาพและข้อมูล จาก http://www.siamphone.com/

the food is local ต้มส้มปลานิล

the food is local ต้มส้มปลานิล
เตรียมการทำ
ปลานิล 2 ตัว ครึ่ง กล.ขอดเกล็ดทำความสะอาด หั่นบั้งตัวละ 3 ท่อน พักไว้
น้ำ 3 ถ้วยแกง (6 ถ้วยตวง)
พริกสดบุบพอแตก 5-6 เม็ด
ใบโหระพา 5-6 ใบ (ถ้าหากไม่ชอบใช้ผักชีต้นหอมก้อได้)ในที่นี้ใช้ใบโหระพา เพราะเป็นอาหารพื้นบ้าน
น้ำมะขามเปียก 5 ช้อนโต๊ะ
ซุปไก่ 1 ก้อน
เกลือ 2 ช้อนชา

วิธีการทำ
นำหม้อตั้งไฟไส่น้ำที่เตรียมไว้
ไส่ซุปก้อนและเกลือ
เมื่อน้ำเดือดพล่านไส่ปลา(ห้ามคน ห้ามปิดฝาหม้อ)
เมื่อเดือดปลาสุกแล้วเติมน้ำมะขามเปียก
ชิมให้ได้รสชาติกลมกล่อม(เปรี้ยวนำเค็มตาม)
ไส่พริกขี้หนูบุบ ใบโหระพา(หรือต้นหอม ผักชี) แล้วยกลงจากเตา
ตักไส่ถ้วยเสริฟตอนร้อนๆ
เมนูนี้เป็นอาหารพื้นบ้าน(ภาคใต้)รับประทาน 2-3 คน
         เคล็ดลับสำหรับอาหารที่ใช้ส่วนประกอบของเนื้อปลา เมื่อนำลงไส่น้ำแกงหรือน้ำเดือดห้ามคนห้ามปิดฝาหม้อเป็นอันขาด เพราะถ้าคนเมื่อมันยังไม่เดือดจะทำให้มีกลิ่นคาว ส่วนห้ามปิดฝาหม้อปลาบางชนิดมีกลิ่นแรง(กลิ่นสาปๆหิ่นๆ)ดังเช่นปลานิลจะมีกลิ่นสาปโคลนหรือตะไคร้น้ำเพราะเป็นปลากินพืชถ้าหากปิดฝาหม้อจะทำให้มีกลิ่นมากขึ้น

the food is local ผัดเผ็ดไก่ผักรวม

the food is local  ผัดเผ็ดไก่ ผักรวม
เมนูนี้สำหรับ 5-6 คนทาน

ส่วนผสม เครื่องแกง
หรือถ้าไม่สะดวกตำเองซื้อก็ได้ ใช้ 3 ช้อนโต๊ะ(กะประมาณตามรูปที่เห็นก็ได้)

พริกขี้หนูแห้ง 20 เม็ด


กระเทียม 1 หัว ประมาณ 8-10 กลีบ


หอมแดง 1 หัว


ตะไคร้ 1 ต้น


พริกไทย 1 ช้อนชา


กระชายหั่นแล้ว 1 ช้อนชา


ขมิ้นหั่นแล้ว 1 ช้อนชา


เกลือ 1 ช้อนชา


กะปิ ครึ่งช้อนโต๊ะ(ไส่หลังจากตำละเอียดแล้ว)


น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ


น้ำตาลปี๊ป 1 ช้อนชา


ซุปไก่ 1 ก้อน (หรือซุปเนื้อ)

นำส่วนผสมทั้งหมดตำให้ละเอียด แล้วจึงไส่กะปิตำให้เข้ากัน พักไว้

 เตรียมผัก
ในที่ท่านสามารถใช้ผักอะไรก็ได้ตามที่ท่านชอบ(กะประมาณตามรูปที่เห็นก็ได้)

ถั่วฝักยาว 2 ฝัก


ถั่วพลู 3 ฝัก


มะเขือเปราะ 3 ลูก (ลูกเล็กผ่า2ใหญ่ผ่า4)


สะตอ 2 ฝัก


มะเขือพวง 20 เม็ด


พริกไทยสดเด็ดเป็นท่อนเล็กๆ 1 ช้อนโต๊ะ แยกไว้ต่างหาก


ใบมะกรูด 5 ใบ หั่นแล้วแยกไว้ต่างหาก


พริกหยวกเขียวแดงอย่างละ 1 เม็ด หั่นแฉลบแยกไว้ต่างหาก
ใบโหระพา(ในส่วนนี้ใช้เฉพาะเมนูไก่)

โดยผักรวมทั้งหมดผสมกันจะได้ 1 จาน
         เตรียมเนื้อสัตว์ตามที่ท่านชอบ (กะประมาณตามรูปที่เห็นก็ได้)อกไก่ 4 อก จะใช้ส่วนไหนก็ได้ตามที่ท่านชอบใช้เป็นเนื้อหมูก็ได้ประมาณ 4 ขีด  หรือ เนื้อวัว(4ขีด)     หรือ กบ(5ตัว)หั่นเนื้อที่ท่านชอบเป็นชิ้นบางๆ พักไว้
  
ขั้นตอนวิธีการทำ 

นำกะทะตั้งไฟ ไส่น้ำมัน 3 -4 ช้อนโต๊ะ

นำส่วนผสมของเครื่องแกง ซุปก้อน ผัดให้หอม(หรี่ไฟลงเดี๋ยวจะไหม้)
เมื่อผัดเครื่องแกงหอมดีแล้วนำเนื้อที่ท่านเตรียวไว้ไส่ลงผัดให้สุก
ปรุงรสด้วย น้ำปลา น้ำตาล ช่วงนี้ถ้าหากท่านชอบน้ำขลุกขลิกสามารถเติมน้ำได้ประมาณ 4-5 ช้อนโต๊ะ แล้วชิมรสไห้ได้ 1เผ็ด 2เค็ม 3หวาน ให้รสกลมกล่อมประมาณ 1-2-3
ไส่ผักที่เตรียมไว้ลงผัดพอสุก(จะได้กรอบๆ)
ขั้นตอนสุดท้ายไส่ใบมะกรุด พริกไทยสด ผัดไห้เข้ากันแล้วยกลง
         เมนูนี้รสชาติจัดจ้านเผ็ดร้อน ทานกับข้าวสวยร้อนๆ ใข่เจียว หรือแกงจืดใบตำลึงหมูสับ รับรองว่าทุกๆท่านเจริญอาหารเป็นยิ่งแท้  ขั้นตอนและวิธีการทำเป็นแบบอาหารพื้นบ้าน(ภาคไต้)บางท่านอาจจะสับสนเล็กน้อยแต่คงไม่ลำบากในการทำ และขอให้ท่านมีความสุขกับการทำอาหารให้ครอบครัวทาน แล้วทำหล่อทำหรอยจะนำเมนูใหม่มาเสนอท่านอีก....สวัสดี

wat khunaram samui วัดคุณาราม เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี

Wat khunaram koh samui วัดคุณาราม เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี หรือ วัดเขาโป๊ะ  Mummified monk
วัดคุณาราม หรือที่ชาวบ้านเรียก วัดเขาโป๊ะ ตั้งอยู่บริเวณกิโลเมตรที่ 13 ณ บ้านตะพ้อ ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมืองเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี

ที่ตั้ง: (รูปแผนที่แบบย่อ) บริเวณกิโลเมตรที่ 13 การเดินทางด้วยรถยนต์จากตลาดหน้าทอน โดยใช้เส้นทางหลวงที่ 4169 ซึ่งเป็นเส้นทางสายหลักถนนรอบเกาะ อยู่เลยน้ำตกหน้าเมือง 1และ2 ห่างประมาณ 3 ก.ม.
ประวัติความเป็นมา:  เป็นวัดที่ประดิษฐาณองค์ หลวงพ่อแดง ปิยะสีโล ( ท่านพระครูสมถกิตติคุณ)  Mummified monk มรณภาพไปแล้วแต่ศพไม่เน่าเปื่อย บรรจุในโลงแก้ว ในท่านั่งวิปัสสนากรรมฐาน
         เดิมชื่อ นายแดง สีชั้น เป็นบุตรของหลวงพิทักษ์และนางน้อยหีต สง่าราษฎร์ เกิดที่บ้านตะพ้อ ตำบลหน้าเมือง อำเภอเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ได้อุปสมบทเมื่อ อายุ ๒๐ ปี บวชได้ ๒ พรรษา ก็ลาสิกขามาสมรสกับ นางเขียว ทองทิพย์ มีบุตรด้วยกัน ๖ คน ต่อมาได้กลับมาอุปสมบทอีกครั้งเมื่อ พ.ศ.๒๔๘๗ ขณะอายุได้ ๕๐ ปี มีท่านพระครูทีปาจารย์(มี บุญสิน)เจ้าคณะอำเภอเกาะสมุยเป็นพระอุปัชฌาย์ ไปปฏิบัติกัมมัฏฐานที่ถ้ำยาย เชิงเขาหมาแหงน(ไกล้วัดละไม)เป็นเวลา ๒ ปี โดยมีพระครูประยุธธรรมโสภิตเป็นอาจารย์สอนจากนั้นได้ติดตาม หลวงพ่อแดง ติสฺโส แห่งสำนักสงฆ์แหลมสอออกธุดงภ์ได้ราว ๑ ปี แล้วไปอยู่ปฏิบัติกัมมัฏฐานที่วัดศิลางู ๔-๕ ปี แล้วไปฝึกปฏิบัติต่อที่วัดมหาธาตุกรุงเทพฯ ท่านมีความรู้แตกฉานและเชี่ยวชาญทางการปฏิบัติกัมมัฏฐาน คณาจารย์จึงมอบหมายให้ท่านเป็นผู้ฝึกสอนแก่ภิกษุ สามเณร อุบาสก อุบาสิกา ที่วัดบุญทริกการาม(วัดพังบัว)ตำบลบ่อผุด เป็นเวลาถึง ๒๐ ปี มีลูกศิษย์มากมายเป็นที่แพร่หลาย ภายหลังไม่ค่อยสบายจึงกลับมาจำพรรษาที่วัดคุณาราม(เขาโป๊ะ) อันเป็นบ้านเกิดของท่าน ระยะสุดท้ายสั่งให้คนใกล้ชิดเตรียมหีบศพ
แบบนั่งสมาธิ ท่านตั้งใจจะเข้าไปนั่งสมาธิในหีบนั้นจนตายแต่ไม่มีใครทำให้ เพราะความรักหวงแหนไม่อยากให้ท่านจากไปและเห็นว่าท่านยังมีสุขภาพแข็งแรงอยู่ แต่เมื่อเดือน ๕ ข้างแรม ท่านบอกย้ำอีกครั้งว่าถึงเดือน ๖ ท่านจะตายก็ไม่มีใครเชื่อ ในที่สุดท่านก็ได้ละสังขารเมื่อวันที่ ๖ พฤษาคม พ.ศ.๒๕๑๖ แรม ๕ ค่ำ เดือน ๖ ปีฉลู อายุ ๗๙ ปี ๘ เดือน พรรษา ๒๙ ปี ๘ เดือน
         ท่านเขียนความไว้ว่า...เขียนเมื่อวันที่ ๒๗ กันยายน พ.ศ.๒๕๑๕ วันพุธ แรม ๕ ค่ำ ปีชวด เมื่ออาตมาตายแล้วที่ตั้งศพก็ต้องทำเป็นโลงนั่ง แต่ถ้าลูกหลานศิษยานุศิษย์ญาติมิตรจะทำบุญให้พระสวดอภิธรรม ทั้ง ๗ คัมภีร์ก็แล้ว แต่ถ้าเสร็จกิจข้างนอกแล้วก็ต้องเก็บศพเข้าไว้ในห้องพระนิพพาน แต่ถ้าร่างกายมันเน่า..ก็ต้องเผาแล้วเก็บกระดูกไว้  ท่านดับไปด้วยท่านั่งสมาธิและสังขารไม่เน่าเปื่อย หลวงพ่อแดง ปิยสีโล แห่งวัดคุณาราม(เขาโป๊ะ)

แหล่งทางวัฒนธรรม:  ข้อมูลด้านการท่องเที่ยว

ประเภทแหล่ง:   ศาสนสถาน

ลักษณะและสภาพของแหล่ง:   ตั้งอยู่บริเวณริมถนนสายรอบเกาะ การเดินทางไปมาสะดวก

ฤดูท่องเที่ยว:   มีนักท่องเที่ยวตลอดปี

นักท่องเที่ยว:   กลุ่มนักท่องเที่ยวท้องถิ่น และกลุ่มรองนักท่องเที่ยวไทยและชาวต่างประเทศ

ความดึงดูดใจ:   Mummified monk หลวงพ่อแดงซึ่งเป็นพระที่ไม่เน่าไม่เปื่อย หรือ มัมมี่ Mummified monk เอเชียก็มีมัมมี่ เป็นมัมมี่ที่น่าพิศวงยิ่งกว่าแตกต่างยิ่งนักเพราะเป็นเรื่องของพลัง จิต เป็นศาสตร์แห่งโลกตะวันออกที่ วิทยาศาสตร์ ยังยากจะอธิบาย เช่น ร่างของ หลวงพ่อแดง ปิยสีโล แห่งวัดคุณาราม เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ที่หลังจากมรณภาพ แล้ว ไม่ได้ผ่านกรรมวิธีทางวิทยาศาสตร์ใดๆ ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง กลับไม่เน่าสลาย! ความน่าพิศวงดังกล่าวทำให้ รอน เบ็คเก็ต และ เจอรัลด์ คอนล็อก สองศาสตราจารย์มหาวิทยาลัยควินนิเปก ในเมืองแฮมเดน มลรัฐคอนเนกติกัต ผู้ซึ่งนำเอาวิทยาการทางการแพทย ์สมัยใหม่และ ความล้ำหน้า ของเทคนิคต่างๆ มาไขเรื่องราวที่ถูกฝังไปพร้อมกับ มัมมี่ทั่วโลก รีบรุดเข้าพิสูจน์ร่างที่ไม่เน่าของ หลวงพ่อแดง ทางวัดเองก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี โดยวางเงื่อนไขเพียงให้ขอขมา ด้วยดอกไม้ ธูปเทียน ก่อนทำการพิสูจน์ และห้ามทำการใดๆ ให้ร่างของหลวงพ่อแดง เสียหาย ทั้งสองเริ่มกระบวนการพิสูจน์เมื่อ สิงหาคมปีที่แล้ว โดยเอกซเรย์ส่วนของศีรษะ และลำตัว เพื่อตรวจดูความสมบูรณ์ของ อวัยวะ
สถานที่ท่องเที่ยว/ กิจกรรม:   ไหว้พระ นมัสการ หลวงพ่อแดง

ปฏิมากรรมภายในบริเวณวัด:   องค์พระอุโบสถ ภายในพระอุโบสถ  และที่ประดิษฐานหลวงพ่อแดง รูปปั้น ต่างๆภาในบริเวณวัด
สถานที่ประดิษฐานหลวงพ่อแดงหลังเก่า ปัจจุบันเป็นห้องสมุด ชมชนมณีโชติรส และเป็นสถานที่เรียนหนังสือของนักศึกษานอกโรงเรียน กศน.

ย้ายหลวงพ่อแดง(วัดเขาโป๊ะ)Temple Wat Khunaram วัดคุณาราม อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี

Temple Wat Khunaram Koh Samui Suratthani วัดคุณาราม อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี
เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2552 เวลา 09.09 น. ทางวัดคุณาราม (วัดเขาโป๊ะ) อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ทางวัดได้ทำการย้ายหลวงพ่อขึ้นประดิษฐาน ณ ที่แห่งใหม่
 พระอุโบสถ
สถานที่ประดิษฐานหลวงพ่อแห่งใหม่
ประชาชนและชาวบ้านเฝ้ารอขบวนการเคลื่อนย้านหลวงพ่อ
ขบวนเคลื่อนย้ายหลวงพ่อออกจากที่ประดิษฐานหลังเก่า
กำลังยกองค์หลวงพ่อขึ้นแท่นแห่งใหม่
ผู้คนที่มาเข้าร่วมในงาน
ภายในสถานที่ประดิษฐานหลวงพ่อหลังเก่า ซึ่งปัจจุบันได้เป็นสถานที่เรียนหนังสือของนักศึกษานอกโรงเรียน กศน.
เมื่อนำหลวงพ่อขึ้นประดิษฐาน ณ ที่หลังใหม่ ซึ่งเป็นวันแรกทางวัดคุณารามจึงได้มีการฉลองสมโภช
จัดงาน 9วัน 9คืน มีดนตรีและมหรสพแสดงในงาน ประชาชนและชาวบ้านในพื้นที่เกาะสมุยและต่างจังหวัดได้เยี่ยมชมบารมีหลวงพ่อมากมายตลอดงานทั้ง9วัน9คืน

นายสุวัฒน์ ทองจันทร์ samui สุราษฎร์ธานี

นายสุวัฒน์ ทองจันทร์ Koh Samui Suratthani
รับปริญญา เมื่อ 23 มีนาคม 2552 ที่ มหาวิทยาลัยราชภัฎสงขลา
รับปริญญา เมื่อ 23 มีนาคม 2552 ที่ มหาวิทยาลัยราชภัฎสงขลา
จบจาก มหาลัยราชภัฎสุราษฎร์ธานี สาขา บริการจัดการ

Facebook

จาก RS tour 12 มกราคม 2013

Map koh samui แผนที่เกาะสมุยค้นหาสถานที่ ต่างๆ


ดู เกาะสมุย koh samui ในแผนที่ขนาดใหญ่กว่า